- News
5 จักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิคแห่งปี ในงาน Motor Show 2025
ในงาน Motor Show 2025 ปีนี้ ได้นำเสนอจักรยานยนต์สไตล์ Modern Classic ที่ผสมผสานเสน่ห์ความวินเทจเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง ระบบช่วยขับขี่ที่ล้ำสมัย หรือดีไซน์ที่สะท้อนความคลาสสิกในทุกมิติ เราได้คัดเลือก 5 รุ่นเด่น ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปีนี้มาให้คุณได้ทำความรู้จัก แล้วมาดูกันว่ารุ่นไหนจะเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับสายวินเทจอย่างคุณ


Kawasaki W800

หากคุณเป็นคนที่หลงใหลในความงามของมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิก และต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอดีต Kawasaki W800 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์ยุค 60s ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เหนือกาลเวลา
เครื่องยนต์ 2 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ปริมาตรกระบอกสูบ 773 ซีซี กำลังสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 62.9 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ตัวรถมีความยาว 2,190 มม. กว้าง 790 มม. สูง 1,075 มม. ระยะฐานล้อ 1,465 มม. น้ำหนักตัวรถประมาณ 226 กก. และความจุถังน้ำมัน 15 ลิตร
ราคาจำหน่าย 419,000 บาท


Kawasaki Meguro S1

การฟื้นคืนชีพของแบรนด์ Meguro ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ในวงการรถจักรยานยนต์ญี่ปุ่น โดย Kawasaki ได้นำเสนอรถรุ่นนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์สไตล์คลาสสิก แต่ยังคงต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าประทับใจ
เครื่องยนต์ 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ปริมาตรกระบอกสูบ 233 ซีซี กำลังสูงสุด 18 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 19 นิวตันเมตรที่ 5,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตัวรถมีความยาว 2,125 มม. กว้าง 800 มม. สูง 1,090 มม. ระยะฐานล้อ 1,415 มม. น้ำหนักตัวรถประมาณ 143 กก. และความจุถังน้ำมัน 12 ลิตร
ราคาจำหน่าย 167,900 บาท


Royal Enfield Hunter 350

ตั้งแต่เปิดตัว Hunter 350 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ขับขี่ทั่วโลก ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบคลาสสิกและสมรรถนะที่ทันสมัย ทำให้รุ่นนี้สามารถจำหน่ายได้ถึง 500,000 คันภายในระยะเวลาเพียงสองปี ตัวรถได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ของผู้ขับขี่เป็นสำคัญ การกำหนดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการขับขี่ในสภาพการจราจรในเมือง
เครื่องยนต์ 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปริมาตรกระบอกสูบ 349 ซีซี กำลังสูงสุด 20.2 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ตัวรถมีความยาว 2,055 มม. กว้าง 800 มม. สูง 1,055 มม. ระยะฐานล้อ 1,370 มม. น้ำหนักตัวรถประมาณ 179 กก. และความจุถังน้ำมัน 15 ลิตร
ราคาจำหน่าย 133,900 บาท*


Triumph Speed Twin 900

จักรยานยนต์แนวโมเดิร์นคลาสสิกที่สืบทอดดีเอ็นเอจากตระกูล Bonneville แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีความสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น แต่แฝงไปด้วยความพรีเมียม ถังน้ำมันทรงหยดน้ำและเบาะนั่งแบบเรียบให้ความรู้สึกของรถคลาสสิกยุคเก่า แต่ยังคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไฟหน้าทรงกลมเป็นแบบ Full LED และหน้าจอเรือนไมล์แบบ Analog ผสมกับ LCD ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน
เครื่องยนต์ 2 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ปริมาตรกระบอกสูบ 1,200 ซีซี กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 112 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตัวรถมีความยาว 2,090 มม. กว้าง 777 มม. สูง 1,115 มม. ระยะฐานล้อ 1,435 มม. น้ำหนักตัวรถประมาณ 216 กก. และความจุถังน้ำมัน 12 ลิตร
ราคาจำหน่าย 399,000 บาท*
Triumph Speed Twin 1200
ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักขับขี่ที่แสวงหาความเป็นเลิศทั้งในด้านสไตล์และสมรรถนะแบบไดนามิก โดยผสมผสานดีไซน์อันน่าตื่นตาตื่นใจเข้ากับขีดความสามารถแบบสปอร์ตได้อย่างลงตัว Speed Twin 1200 RS มาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้าย LED ทรงกะทัดรัดที่มีรูปแบบแสงไฟโดดเด่น ครีบระบายความร้อนบนฝาสูบและเฮดเดอร์โร้สทรงครีบเสริมความคลาสสิก ช่วยเสริมภาพลักษณ์ร่วมสมัยที่มีสไตล์เหนือกาลเวล
เครื่องยนต์ 2 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปริมาตรกระบอกสูบ 900 ซีซี กำลังสูงสุด 65 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ตัวรถมีความยาว 2,073 มม. กว้าง 792 มม. สูง 1,127 มม. ระยะฐานล้อ 1,414 มม. น้ำหนักตัวรถประมาณ 216 กก. และความจุถังน้ำมัน 14.5 ลิตร
ราคาจำหน่าย 659,000 บาท*